

สถานที่
United Kingdom
นักเรียนต่างชาติ
4500
อันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
201





ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากกว่า 150 ปี มหาวิทยาลัย Reading ได้สั่งสมชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับทั้งในสาขาภูมิอากาศวิทยา, สาขาธุรกิจ, สาขาเกษตรกรรม, และสาขาวิทยาศาสตร์ทางอาหาร ควบคู่ไปกับความร่วมมือทางด้านวิชาการกับองค์กรชั้นนำในระดับนานาชาติ ไม่เพียงแต่เป้าหมายในด้านวิชาการ แต่มหาวิทยาลัย Reading ยังมุ่งมั่นในการเป็นมหาวิทยาลัยที่จะลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ให้ได้ในปี 2030 มหาวิทยาลัย Reading ประกอบไปด้วยวิทยาเขตหลักตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ใกล้กับสนามบิน Heathrow และวิทยาเขตรองอีกสองแห่งในต่างประเทศ
นับเป็นปีที่สามติดต่อกันที่มหาวิทยาลัย Reading ได้รับการจัดอันดับจาก the QS World University Rankings 2026 ให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำใน 200 อันดับแรกของโลก โดยอยู่ในอันดับ 194 และอันดับ 27 ในสหราชอาณาจักร ควบคู่กับการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีพัฒนาการด้านความยั่งยืนดีที่สุดในโลกอันดับที่ 42 ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดขึ้นมาถึง 147 อันดับภายในระยะเวลาเพียงสองปีที่ผ่านมา
มหาวิทยาลัยมีนักศึกษานานาชาติประมาณ 5,000 คน โดยเป็นชุมชนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันพร้อมด้วยสโมสรและชมรมต่างๆ, สิ่งอำนวยความสะดวกทางการกีฬาและสันทนาการอันหลากหลายและบริการช่วยเหลือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริการตั้งแต่ก่อนออกเดินทางและกิจกรรมต้อนรับต่างๆรวมถึงตลอดช่วงเวลาที่เรียนที่มหาวิทยาลัย
นักศึกษาสามารถเลือกเรียนหลักสูตรระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีที่มีการเปิดสอนประมาณ 500 หลักสูตร รวมถึงมีการวิจัยที่ดำเนินการที่มหาวิทยาลัยถึง 98 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ (REF 2021) มหาวิทยาลัยมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการพัฒนาความก้าวหน้าในด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันและนวัตกรรม นอกจากนี้มหาวิทยาลัย Reading ยังมีทุนการศึกษาอันหลากหลายสำหรับนักศึกษาในทุกระดับการเรียนเพื่อช่วยเหลือในเรื่องเงินทุนและยกย่องความสำเร็จด้านการเรียนของนักศึกษาด้วย
งบประมาณมากกว่า 500 ล้านปอนด์ได้ลงทุนไปกับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในวิทยาเขต ครอบคลุมทั้งในด้านการวิจัย, ด้านวิชาการ, ด้านหอพัก, และด้านสันทนาการ
มหาวิทยาลัย Reading มีความมุ่งมั่นในการรับนักศึกษาที่มีความสามารถมาเรียนในสภาพแวดล้อมที่จะขยายขอบเขตความรู้และช่วยให้ทุกคนได้มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จ
มหาวิทยาลัยยินดีรับพิจารณาใบสมัครเรียนจากนักศึกษาที่มีคุณวุฒิการศึกษาอย่างเช่น A-Levels, International Baccalaureates และประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษานานาชาติมากมาย
ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี, นักศึกษาสามารถมั่นใจได้ว่า หลักสูตรปูพื้นฐานทั้งในด้านวิชาการและภาษาอังกฤษ ที่เปิดสอนโดย IFP จะช่วยให้พวกเค้าสามารถปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการเรียนในระดับปริญญาตรีได้อย่างแน่นอน
นักศึกษาสามารถสมัครเรียนในหลักสูตรปูพื้นฐานที่ผสมผสานเข้ากับการเรียนในระดับปริญญาตรีได้ โดยหลักสูตรนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้เวลาเรียนเพื่อปรับพื้นฐานในช่วงปีแรก (Year 0) และจากนั้นจะได้เรียนในหลักสูตรปริญญาตรีที่ตนเองสนใจในอีกสามปีที่เหลือ นักศึกษาที่สนใจจำเป็นต้องมีวีซ่าประเภทนักศึกษาครอบคลุมระยะเวลาสี่ปี
นักศึกษาที่สนใจสมัครเข้าเรียนในระดับปริญญาโทจำเป็นต้องมีผลการเรียนในระดับปริญญาตรีอยู่ในระดับดีเยี่ยม เช่นเดียวกันกับการสมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาเอก นักศึกษาจำเป็นต้องสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท พร้อมทั้งส่งโครงงานวิจัยที่ตนสนใจ เว้นเสียแต่ได้ทำการสมัครในโครงการวิจัยที่ได้ระบุไว้ในหลักสูตร
นักศึกษาที่ไม่ได้มาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร จำเป็นต้องยื่นคะแนนสอบ IELTS หรือคะแนนสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษอื่นๆ ให้กับทางมหาวิทยาลัย และต้องมีคะแนนสอบ IELTS ตั้งแต่ 6.5 เป็นต้นไปจึงจะผ่านเกณฑ์ตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด นอกจากนี้หากนักศึกษาต้องการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษอย่างรอบด้าน ก็สามารถสมัครเรียนหลักสูตรปูพื้นฐาน (PSE) กับทางมหาวิทยาลัยได้ โดยหลักสูตรนี้จะครอบคลุมระยะเวลาในการเรียนตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ยาวไปจนถึงตลอดปี
มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาอันหลากหลายสำหรับนักศึกษานานาชาติทั้งระดับปริญญาตรีและระดับสูงกว่าปริญญาตรี โดยอาจมีโอกาสการจัดหาเงินทุนในรูปแบบรายประเทศหรือเฉพาะหลักสูตร แต่จะมีความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับนักศึกษานานาชาติทุกคน โดยมีทุนการศึกษาและเงินอุปถัมภ์ต่างๆมอบให้นักศึกษาดังนี้:
มหาวิทยาลัยและโครงการทุนการศึกษา Chevening ระดับโลกของรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้มีการทำงานร่วมกันมานานถึง 20 ปีเพื่อมอบเงินทุนให้กับนักศึกษาสำหรับการเรียนหลักสูตรระดับปริญญาโท ทุนการศึกษานี้จะครอบคลุมค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนรวมถึงมอบเงินช่วยเหลือสำหรับค่าครองชีพด้วย โดยปัจจุบันมีนักศึกษาทุน Chevening เกือบ 500 คนที่เรียนที่มหาวิทยาลัย Reading
ทุนการศึกษา Global Sustainability Leadership จะมอบให้แก่นักศึกษาที่มีความโดดเด่นจำนวน 400 ทุนต่อปี ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ ทุนการศึกษาประเภทนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้นำรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ทุนการศึกษาส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยเป็นทุนการศึกษาบางส่วนในรูปแบบส่วนลดค่าเล่าเรียน (ยกตัวอย่างเช่นทุน 4,000 ปอนด์ต่อปี) มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาหลากหลายทุน ซึ่งนักศึกษาสามารถได้รับคัดเลือกเพื่อรับทุนการศึกษาได้มากกว่าหนึ่งทุน
นอกจากนี้ยังมีทุนการวิจัยนานาชาติซึ่งเป็นทุนการศึกษาสำหรับผู้สมัครเรียนหลักสูตรระดับปริญญาเอกที่มีคุณวุฒิสูงในสาขาวิทยาศาสตร์, วิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต, สังคมศาสตร์, ศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์
อีกทั้งคณะวิชาธุรกิจ Henley ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติยังมีทุนการศึกษามากกว่า 100 ทุนต่อปีมอบให้นักศึกษา โดยเป็นทุนค่าเล่าเรียนแบบบางส่วนหรือเต็มจำนวน
นักศึกษาสามารถศึกษารายละเอียดทุนการศึกษาเพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บไซท์ของทางมหาวิทยาลัย
ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศเพื่อสร้างความคุ้นเคยและสอบถามในประเด็นต่างๆผ่านการประชุมในรูปแบบออนไลน์
นักศึกษาที่สมัครเข้าเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะได้พบกับงานกิจกรรม "Welcome Week" ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้นักศึกษาได้ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยผ่านรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิเช่น การพาทัวร์รอบวิทยาเขต, การให้คำแนะนำในการเปิดบัญชี, การสมัครเรียน, รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆจากสมาพันธ์นักศึกษา
ทางมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ นักศึกษา ครอบคลุมทั้งในด้านการเรียน, การใช้ชีวิต, สวัสดิการ, ทุนการศึกษา และการขอวีซ่าเพื่อการเรียนและทำงาน
มหาวิทยาลัย Reading ได้รับการโหวตจาก Student Crowd 2025 ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีบริการให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพดีที่สุดในอันดับ 6 ของสหราชอาณาจักร นักศึกษาและศิษย์เก่าสามารถเข้าถึงบริการต่างๆได้อย่างเปิดกว้าง ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 2026 เดือนหลังจากเรียนจบ บริการที่น่าสนใจประกอบไปด้วย:
The Reading Experience and Development (RED) Award มีส่วนสำคัญในการจัดหากิจกรรมนอกห้องเรียนที่ช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาได้อย่างรอบด้าน
นักศึกษาของมหาวิทยาลัย Reading จะได้รับประสบการณ์การทำงานอันมีค่าผ่านทางการทำงานและการฝึกงานในระหว่างการเรียน โดยมีระยะเวลาอันหลากหลายตั้งแต่สองสัปดาห์จนถึงหนึ่งปี
วิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัย คือ Whiteknights ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการใช้ชีวิตของนักศึกษา มีทั้งพื้นที่อ่านหนังสือที่หลากหลาย, ร้านค้า, สิ่งอำนวยความสะดวก, พิพิธภัณฑ์สองแห่ง และสหภาพนักศึกษา ภายในพื้นที่กว่า 120 เฮกตาร์ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม นักศึกษาสามารถเพลิดเพลินไปกับทะเลสาบ, สวนพฤกษศาสตร์, และป่าไม้ตลอดทั้งปี วิทยาเขตแห่งนี้ยังได้รับรางวัล Green Flag ติดต่อกันถึง 15 ปี ซึ่งยืนยันว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักร
นอกจากห้องบรรยายอันทันสมัย ห้องสตูดิโอ, ห้องแล็บ, และห้องสัมมนาแล้ว Whiteknights ยังมีห้องสมุดที่เก็บรวบรวมหนังสือและทรัพยากรมากกว่า 100,000 รายการ, พื้นที่จำลองการซื้อขายหลักทรัพย์ (ICMA Centre), พิพิธภัณฑ์สัตววิทยา Cole, และพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมกรีก Ure นอกจากนี้ยังมีศูนย์กีฬาที่ครบครัน ทั้งห้องฟิตเนส, สนามกีฬา, สนามกลางแจ้ง, และสนามเทนนิสถึง 8 สนาม
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกในวิทยาเขต Whiteknights แล้ว มหาวิทยาลัยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทาง เช่น อาคารเรียนและสตูดิโอสำหรับนักศึกษาสถาปัตยกรรมและการศึกษาที่วิทยาเขตเก่าแก่ London Road ส่วนที่วิทยาลัยธุรกิจ Henley ซึ่งตั้งอยู่ภายในวิทยาเขต Greenlands ก็มีห้องสมุดเฉพาะทางและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเรียนการสอนล้ำสมัย สำหรับนักศึกษาการเงิน, การบัญชี, และธุรกิจ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีวิทยาเขตในประเทศมาเลเซีย และวิทยาลัยธุรกิจ Henley ยังมีวิทยาเขตในฟินแลนด์, เยอรมนี, มอลตา, และแอฟริกาใต้ด้วย
มหาวิทยาลัย Reading มีที่พักที่บริหารจัดการโดยมหาวิทยาลัยเองหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความสะดวกสบายที่แตกต่างกัน ที่พักมีทั้งสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา โดยค่าใช้จ่ายสำหรับปีการศึกษา 2025/26 อยู่ระหว่าง 158.06 – 295.00 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มีให้เลือกหลายประเภท เช่น ห้องมาตรฐาน, ห้องอัปเกรด, ห้องพรีเมียมแบบทาวน์เฮาส์ และแบบมีห้องน้ำในตัว ที่พักตั้งอยู่ในหรือใกล้กับวิทยาเขตหลัก Whiteknights และรวมค่าสาธารณูปโภค, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, และประกันทรัพย์สินพื้นฐานไว้แล้ว
นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่มหาวิทยาลัย Reading ได้รับการจัดอันดับจาก the QS World University Rankings 2026 ให้เป็นมหาวิทยาลัยในท้อป 200 ของโลก โดยอยู่ในอันดับ 194 และอันดับ 27 ในสหราชอาณาจักร เช่นเดียวกับการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในจำนวน 13% ของโลก
มหาวิทยาลัย Reading เป็นมหาวิทยาลัยที่มีพัฒนาการด้านความยั่งยืนดีที่สุดในโลกอันดับที่ 42 ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดขึ้นมาถึง 147 อันดับภายในระยะเวลาเพียงสองปีที่ผ่านมา
มหาวิทยาลัย Reading ยังติดอันดับสูงในด้านความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยได้คะแนนโดดเด่นในเรื่องชื่อเสียงทางวิชาการ คณาจารย์นานาชาติ และเครือข่ายงานวิจัยระหว่างประเทศ
เมื่อไม่นานมานี้ มหาวิทยาลัย Reading ได้รับรางวัล Sustainable University of the Year 2025 จาก The Times และ The Sunday Times Good University Guide 2025 แสดงถึงความมุ่งมั่นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ความพยายามของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลกยังได้รับการยอมรับจาก Times Higher Education โดยใน Impact Rankings 2025 มหาวิทยาลัยติดอันดับ 50 แรกของโลก
มากกว่า 1 ใน 3 ของพลังงานที่ถูกใช้ภายในวิทยาเขต เป็นพลังงานหมุนเวียนแบบ 100% ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาโซล่าเซลล์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการการเพิ่มแหล่งกำเนิดไฟฟ้าไปพร้อมๆกับสร้างความอบอุ่นให้แก่อาคารเรียนและห้องวิจัย นักศึกษาสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อมได้จากหน้าเว็บไซท์ของทางมหาวิทยาลัย.
นอกเหนือจากการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านภูมิอากาศวิทยา มหาวิทยาลัย Reading ยังได้ทำงานร่วมกับ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC)เพื่อค้นคว้าวิจัยและริเริ่มโครงการที่ช่วยแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้อย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการสร้างการตระหนักรู้ให้แก่เยาวชนและนักศึกษา
มหาวิทยาลัย Reading เป็นมหาวิทยาลัยแถวหน้าที่มีความเป็นเลิศในด้านการสอน นักศึกษาสามารถสัมผัสได้ถึงรูปแบบการสอนที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจในการรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆให้แก่สังคม
ตามการจัดอันดับล่าสุดของ QS World University rankings 2025, Reading ได้รับการติดอันดับในสาขาต่างๆ อาทิ:
หลักสูตรส่วนใหญ่ของ Reading ให้ความสำคัญกับความต้องการของนักศึกษาเป็นหลัก เปิดกว้างสำหรับการพัฒนาทักษะอย่างครอบคลุม ควบคู่กับโอกาสในการฝึกงานร่วมกับองค์กรชั้นนำ นักศึกษาจะได้ประยุกต์ใช้ทักษะที่ตรงตามสายอาชีพไปพร้อมๆกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างมืออาชีพ
มหาวิทยาลัยได้จัดการวิจัยออกเป็นหัวข้อหลัก ได้แก่ เกษตร, อาหารและสุขภาพ; สิ่งแวดล้อม; มรดกและความคิดสร้างสรรค์; ความมั่งคั่งและความยืดหยุ่น ซึ่งแต่ละหัวข้อได้รับการออกแบบให้สามารถเชื่อมโยงกันและเปิดกว้างสำหรับการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างงานวิจัยที่ทรงพลังซึ่งขับเคลื่อนด้วยความใฝ่รู้และนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อเหล่านี้ มหาวิทยาลัยมีหน่วยวิจัยย่อยทั้งหมด 35 แห่ง
คณะวิชาต่างๆมีความเชี่ยวชาญด้านวิชาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหลายแผนกวิชา คณะวิชาของมหาวิทยาลัย Reading มีดังนี้:
Connect with peers and student ambassadors to hear real experiences, tips, and advice about studying abroad.


ขั้นตอน 1
Choose the best three courses you’re most likely to pursue.
ขั้นตอน 2
Get an instant in-principle offer for courses with the IDP FastLane tag.
ขั้นตอน 3
Fill out the form once and use it to apply to multiple courses.
ด้วย 'ข้อเสนอตามหลักการ' ของ FastLane คุณจะรู้ได้ในไม่กี่นาทีว่าคุณจะได้รับการตอบรับหรือไม่!
เลือกสถาบันและหลักสูตร
สร้างประวัติการศึกษาของคุณ
ส่งใบสมัครของคุณเพื่อรับ 'ข้อเสนอในหลักการ'
สถาบันที่คุณเลือกจะส่งผลตอบรับถึงคุณภายในไม่กี่นาที!
เตรียมสมัครกับที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ