เรียนต่ออเมริกาอาจดูมีค่าใช้จ่ายสูง แต่หากวางแผนงบประมาณให้ดี น้อง ๆ จะสามารถบริหารค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังนั้นการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็น ค่าเทอมอเมริกา ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าประกันสุขภาพ และค่าเดินทาง เพื่อประเมินงบประมาณที่ต้องใช้ในการเรียนต่ออเมริกาได้อย่างแม่นยำ

เรียนต่ออเมริกา ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?

ระดับการศึกษา

ค่าเทอมโดยประมาณ (USD)

คอร์สภาษาอังกฤษ

$700 – $2,000 ต่อเดือน

วิทยาลัยชุมชน (Community College)

$6,000 – $20,000 ต่อปี

ปริญญาตรี (Undergraduate Degree)

$20,000 – $50,000 ต่อปี

ปริญญาโท (Graduate Degree / Master’s)

$20,000 – $50,000 ต่อปี

ปริญญาเอก (Doctoral Degree / PhD)

$5,000 – $15,000 ต่อปี (หลังหักทุนหรือผู้ช่วยสอน)

สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเรียนต่อในระดับ ปริญญาตรี ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี เช่นเดียวกับระดับ ปริญญาโท ที่มีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกันคือ 20,000 – 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ในขณะที่ผู้ที่วางแผนเรียนต่อระดับ ปริญญาเอก (PhD) มักจะได้รับทุนช่วยเหลือหรือการเป็นผู้ช่วยสอน (Assistantship) ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายลงเหลือเพียง 5,000 – 15,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยประมาณ เพื่อให้เห็นภาพรวมของงบประมาณที่ควรเตรียมไว้สำหรับการเรียนต่อในอเมริกา ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไปตามเมือง มหาวิทยาลัย และสาขาที่เลือกเรียน

ใครอยากให้พี่ ๆ IDP ช่วยประเมินว่า เรียนต่ออเมริกา ใช้เงินเท่าไหร่ ให้แบบตอบโจทย์รายบุคคล ลงทะเบียนไว้ได้เลยนะ พี่ ๆ IDP จะติดต่อกลับให้คำปรึกษาเพิ่มเติมค่ะ


ค่าเทอมมหาวิทยาลัยในอเมริกา

มหาวิทยาลัยในอเมริกาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ มหาวิทยาลัยของรัฐ (Public/State University) และ มหาวิทยาลัยเอกชน (Private University) โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยของรัฐจะมี ค่าเทอมอเมริกาที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับเอกชน แต่ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงยังขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา สาขาวิชา และมหาวิทยาลัยที่เลือกเรียน

สำหรับระดับ ปริญญาตรี (Undergraduate) นักศึกษาต่างชาติสามารถคาดการณ์ ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา อยู่ที่ประมาณ 20,000 – 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ตัวเลขนี้เป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ) โดยหลักสูตรสาย มนุษยศาสตร์ ศิลปะ และการศึกษา มักมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ขณะที่สาขา แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือเทคโนโลยี จะมีค่าเรียนอเมริกาที่สูงกว่า

หากต้องการเรียนต่อในระดับ ปริญญาโท (Postgraduate) ค่าเทอมจะสูงขึ้นอีกตามสาขาวิชา โดยเฉพาะหลักสูตรยอดนิยมอย่าง MBA (Master of Business Administration) ซึ่งมักมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 – 70,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของสถาบัน)

ด้านล่างคือตัวอย่างช่วงค่าเทอมเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วอเมริกา

ระดับปริญญาตรี (Undergraduate programs)

  • มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Sciences): $20,000 – $30,000 ต่อปี

  • วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (Engineering & Technology): $30,000 – $50,000 ต่อปี

  • บริหารธุรกิจและพาณิชยศาสตร์ (Business & Commerce): $25,000 – $45,000 ต่อปี

  • วิทยาศาสตร์สุขภาพและแพทย์ศาสตร์ (Health Sciences & Medicine): $35,000 – $60,000 ต่อปี

ระดับบัณฑิตศึกษา (Postgraduate programs)

  • ปริญญาโท (Master’s degree): $20,000 – $50,000 ต่อปี หลักสูตรสายศิลปะ มนุษยศาสตร์ หรือธุรกิจ มักมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า สาขากฎหมายหรือสุขภาพที่มีค่าเทอมสูงกว่า

  • ปริญญาเอก (Doctoral degree / PhD): $5,000 – $15,000 ต่อปี หลายมหาวิทยาลัยในอเมริกามีทุนวิจัยหรือทุนผู้ช่วยสอน (

    Research/Teaching Assistantship) ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและมีเงินช่วยรายเดือนเพิ่มเติม

  • หลักสูตร MBA: $40,000 – $70,000 ต่อปี โดยเฉพาะสถาบันชั้นนำอย่าง Harvard, Stanford หรือ Wharton จะอยู่ในช่วงราคาสูงสุดของช่วงนี้

ด้วยความซับซ้อนตรงนี้ ทำให้การประเมินว่า เรียนต่ออเมริกา ใช้เงินเท่าไหร่ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน เพราะแต่ละคนมีโจทย์ในการเรียนต่ออเมริกาไม่เหมือนกัน

น้อง ๆ คนไหนอยากได้คำแนะนำเรื่อง ค่าใช้เรียนต่ออเมริกา แบบตอบโจทย์รายบุคคล ลงทะเบียนปรึกษาพี่ๆ IDP ได้เลยนะ บริการฟรีทุกขั้นตอนเลย ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงค่ะ


ค่าใช้จ่ายเรียนอเมริกา ส่วนอื่น ๆ ในระดับมหาวิทยาลัย

นอกจากค่าเทอมแล้ว นักศึกษาควรเผื่อ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนต่อในอเมริกา ด้วย เพราะมีผลต่อการวางแผนงบประมาณโดยรวม

1. ค่าบริการนักศึกษา

นอกจากค่าเทอมแล้ว มหาวิทยาลัยในอเมริกาส่วนใหญ่จะมี ค่าบริการนักศึกษา (Student Service Fee) เพิ่มเติม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ $200 – $1,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย

ค่าธรรมเนียมนี้ครอบคลุมบริการต่าง ๆ เช่น กิจกรรมนักศึกษาและชมรม การเข้าถึงบริการสุขภาพ ฟิตเนส และห้องสมุด การให้คำปรึกษาและสวัสดิการนักเรียน รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมปฐมนิเทศ (Orientation) และโครงการส่งเสริมสุขภาพนักศึกษา

2. ค่าวัสดุการเรียนและหนังสือ

อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ควรเตรียมไว้คือ ค่าหนังสือเรียนและอุปกรณ์การศึกษา ซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $500 – $1,200 ต่อปี รวมถึงค่าอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น ชุดแลปหรือโปรแกรมซอฟต์แวร์เฉพาะสาขา โดยเฉพาะในสาย แพทย์ วิศวกรรม หรือวิทยาศาสตร์ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า $1,500 ต่อปี


ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา รวมต่อปี ในระดับมหาวิทยาลัย

เพื่อให้น้อง ๆ เห็นภาพรวมชัดเจนของ ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกาในแต่ละปี ด้านล่างนี้คือสรุปงบประมาณที่ควรเตรียมโดยประมาณ ส่วนหลักของค่าใช้จ่ายคือ ค่าเทอม (Tuition fees) ซึ่งโดยทั่วไปอยู่ในช่วง:

  • ระดับปริญญาตรี (Undergraduate programs): ประมาณ 20,000 – 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและมหาวิทยาลัย

  • ระดับบัณฑิตศึกษา (Postgraduate programs): ประมาณ 20,000 – 70,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขึ้นอยู่กับโปรแกรมและสถาบัน

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ควรคำนึงถึง ได้แก่

  • ค่าบริการนักศึกษา (Student services fees): $200 – $1,000 ต่อปี

  • ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน (Study materials and textbooks): $500 – $1,200 ต่อปี

  • ค่าครองชีพ (Living expenses): $18,000 – $25,000 ต่อปี รวมค่าที่พัก อาหาร เดินทาง ประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว

สรุปภาพรวมค่าใช้จ่ายต่อปีโดยประมาณของการเรียนต่อในอเมริกาเป็นดังนี้

ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา ในระดับปริญญาตรี (Undergraduate programs)

  • ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำต่อปี รวมทั้งหมด: USD $38,500

    • ค่าเทอม: USD $20,000

    • ค่าครองชีพ: USD $18,500

  • ค่าใช้จ่ายสูงสุดต่อปี รวมทั้งหมด: USD $75,000

    • ค่าเทอม: USD $50,000

    • ค่าครองชีพ: USD $25,000

ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา ระดับบัณฑิตศึกษา (Postgraduate programs)

  • ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำต่อปี รวมทั้งหมด: USD $38,500

    • ค่าเทอม: USD $20,000

    • ค่าครองชีพ: USD $18,500

  • ค่าใช้จ่ายสูงสุดต่อปี รวมทั้งหมด: USD $95,000

    • ค่าเทอม: USD $70,000

    • ค่าครองชีพ: USD $25,000

ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยประมาณ เพื่อช่วยให้น้อง ๆ วางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกาได้อย่างรอบคอบ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไปตามมหาวิทยาลัย เมือง และสไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน

ด้วยความซับซ้อนตรงนี้ ทำให้การประเมินว่า เรียนต่ออเมริกา ใช้เงินเท่าไหร่ แบบกว้าง ๆ ให้ตอบโจทย์รายบุคคลเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเลย เพราะแต่ละคนมีโจทย์ในการเรียนต่ออเมริกาไม่เหมือนกัน

น้อง ๆ คนไหนอยากได้คำแนะนำเรื่อง ค่าเรียนต่ออเมริกา แบบตอบโจทย์รายบุคคล ลงทะเบียนปรึกษาพี่ๆ IDP ได้เลยนะ บริการฟรีทุกขั้นตอนเลย ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงค่ะ


ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่านักเรียนอเมริกา

ก่อนเริ่มเรียนต่อในอเมริกา ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนไทยคือ การขอวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 (Student Visa)

โดยมีค่าใช้จ่ายหลักดังนี้:

  • ค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่า (MRV Fee):USD $185 ชำระเมื่อยื่นใบสมัคร

  • ค่าธรรมเนียมระบบ SEVIS (Student and Exchange Visitor Information System): USD $350 ค่าธรรมเนียมนี้เป็นค่าดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับระบบติดตามข้อมูลนักเรียนต่างชาติ และต้องชำระทางออนไลน์หลังจากได้รับเอกสาร Form I-20 จากมหาวิทยาลัยในอเมริกา ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการยื่นขอวีซ่า

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ควรเผื่อไว้ เช่น

  • ค่าการเดินทางไปสัมภาษณ์วีซ่า: หากต้องเดินทางไปสถานทูตสหรัฐฯ ที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุล ค่าเดินทางจะแตกต่างตามจังหวัดที่อยู่

  • ค่าจัดส่งเอกสาร (Courier or mailing fees): กรณีที่ต้องจัดส่งเอกสารหรือวีซ่ากลับมายังผู้สมัคร อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มประมาณ

    USD $10 – $50

อย่าลืมรวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ในแผนงบประมาณรวมของการเรียนต่อในอเมริกาด้วยนะคะ เพื่อให้เตรียมพร้อมทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนถึงวันบิน

ใครกำลังขอวีซ่านักเรียน เพื่อไปเรียนต่ออเมริกา ลงทะเบียนมาปรึกษาพี่ ๆ IDP ได้เลยนะคะ บริการฟรีทุกขั้นตอนเลยค่ะ


ทุนการศึกษาและโอกาสช่วยเหลือทางการเงิน

แม้ว่าการเรียนต่อในอเมริกาจะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็มี ทุนการศึกษา (Scholarships) และ โอกาสช่วยเหลือทางการเงิน (Financial Aid) มากมายที่สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นทุนจากมหาวิทยาลัยโดยตรง ทุนรัฐบาล หรือทุนเฉพาะทางตามสาขาวิชา

ทุนเหล่านี้เปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติ รวมถึงนักเรียนไทย ได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาในงบที่คุ้มค่ากว่าที่คิด

ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัย (University scholarships)

มหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติสมัคร ทุนการศึกษาแบบให้ตามผลการเรียน (Merit-based Scholarships) ซึ่งทุนเหล่านี้อาจครอบคลุมตั้งแต่บางส่วนของค่าเทอม ไปจนถึงทุนเต็มจำนวน ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยและผลการเรียนของผู้สมัคร

บางสถาบันยังมี ทุนอัตโนมัติ (Automatic Scholarships) ที่มอบให้โดยไม่ต้องสมัครแยก เพียงแค่มีผล GPA, SAT, หรือคะแนนภาษาอังกฤษสูงตามเกณฑ์ก็มีสิทธิ์ได้รับทุนแล้ว น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดทุน เงื่อนไขการสมัคร และคุณสมบัติของผู้สมัครได้โดยตรงบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่สนใจ

ทุนการศึกษาจากรัฐบาล (Government scholarships)

นอกจากทุนจากมหาวิทยาลัยแล้ว ยังมี ทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับนักศึกษาต่างชาติ เช่น โครงการ Fulbright Program หนึ่งในทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก เปิดโอกาสให้นักเรียนจากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ได้รับทุนไปศึกษาต่อในอเมริกา

ทุนประเภทนี้มักมีเงื่อนไขและขั้นตอนการสมัครเฉพาะ เช่น ผลการเรียน ระดับภาษา หรือประสบการณ์วิชาชีพ จึงควรศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างละเอียด

ทุนจากองค์กรภายนอก (External scholarships)

นอกจากทุนจากมหาวิทยาลัยและรัฐบาลแล้ว ยังมีทุนจากองค์กรภายนอกอีกมากมาย เช่น

  • มูลนิธิเอกชน (Private Foundations)

  • องค์กรระดับนานาชาติ เช่น United Nations (UN) หรือ World Bank

ทุนเหล่านี้มักมุ่งเน้นให้นักศึกษาที่มีเป้าหมายเฉพาะด้าน เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม หรือเทคโนโลยี ได้รับโอกาสเรียนต่อในอเมริกาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการเรียน

ค่าครองชีพและที่พักในอเมริกา

นอกจากค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในมหาวิทยาลัยแล้ว นักศึกษายังต้องวางแผนเรื่อง ค่าครองชีพและที่พัก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเมืองที่อยู่และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยทั่วไปนักศึกษาต่างชาติจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 18,000 – 25,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

1. ที่พัก (Accommodation)

หอพักในมหาวิทยาลัย (On-campus housing)

การพักภายในมหาวิทยาลัยช่วยให้เดินทางสะดวกและใกล้คลาสเรียน ค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ที่ประมาณ $9,000 – $15,100 (รวมค่าอาหารบางส่วน ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)

ที่พักนอกมหาวิทยาลัย (Off-campus housing)

สำหรับน้อง ๆ ที่อยากได้อิสระมากขึ้น การเช่าห้องหรืออพาร์ตเมนต์นอกมหาวิทยาลัยก็เป็นตัวเลือกยอดนิยม ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ $700 – $1,500 ต่อเดือน โดยเมืองใหญ่เช่น นิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส หรือบอสตัน จะมีค่าเช่าสูงกว่าเมืองเล็กหรือย่านชานเมือง

การเช่าห้องอยู่รวมกับเพื่อน (Shared accommodation)

อีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดงบได้มากคือการแชร์ห้องหรืออพาร์ตเมนต์กับเพื่อนร่วมเรียน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ $800 – $1,200 ต่อเดือนต่อคน

2. ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา อื่น ๆ

ค่าอาหารและของใช้

ค่าอาหารจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินและการทำอาหารเอง โดยทั่วไปนักศึกษาจะใช้จ่ายประมาณ $300 – $600 ต่อเดือน ทำอาหารกินเองและซื้อของใช้เป็นแพ็คใหญ่จะช่วยประหยัดได้มาก

ค่าเดินทาง

ค่าเดินทางก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของ ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา โดยขึ้นอยู่กับระบบขนส่งของเมืองที่เรียน

  • ขนส่งสาธารณะ (Public Transit): บัตรรายเดือนอยู่ที่ประมาณ $100 – $120 ต่อเดือน

  • บัตรนักเรียน (Student Transit Pass): หลายเมืองมีส่วนลดพิเศษให้ 30–50% จากราคาปกติ

  • จักรยานหรือเดินเท้า (Biking/Walking): ฟรีและประหยัด เหมาะกับเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานดี

ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (Other personal costs)

อย่าลืมเผื่อเงินไว้สำหรับกิจกรรมและของใช้ส่วนตัว เช่น

  • ความบันเทิง: $50 – $150 ต่อเดือน

  • ของใช้ส่วนตัว: $50 – $150 ต่อเดือน

  • ค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต: $40 – $80 ต่อเดือน

น้อง ๆ ที่อยากได้คำปรึกษาว่าเรียนต่ออเมริกา ใช้เงินเท่าไหร่ ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนและค่าที่พักในอเมริกา สามารถลงทะเบียนปรึกษาพี่ ๆ IDP ได้เลยนะคะ บริการฟรีทุกขั้นตอนเลยค่ะ


เรียนต่อเมริกา ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พี่ๆ IDP ช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกาให้ได้

โดยสรุปแล้ว การเรียนต่อในอเมริกาประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งค่าเทอม ค่าครองชีพ ค่าหนังสือ ค่าวีซ่า และค่าที่พัก

หากวางแผนล่วงหน้าและคำนวณค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนให้รอบคอบ น้อง ๆ จะสามารถบริหารงบได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ชีวิตนักเรียนในต่างประเทศได้อย่างเต็มที่

ที่ IDP เราเข้าใจดีว่าการจัดการเรื่องงบประมาณสำหรับเรียนต่ออเมริกาอาจดูซับซ้อน

พี่ ๆ IDP เอเจนซี่เรียนต่อต่างประเทศ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยในอเมริกามากกว่า 100 แห่ง มากที่สุดในไทย

  • นักเรียน 750,000 คนทั่วโลก ไว้ใจ ให้พี่ ๆ IDP ดูแล เรื่องเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นนักเรียนไทยรวมแล้วกว่า 12,000 คน

  • บริการฟรีทุกขั้นตอน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงค่ะ

ตั้งแต่การเลือกหลักสูตร มหาวิทยาลัยในงบประมาณที่เหมาะสม ไปจนถึงการค้นหาทุนการศึกษาที่ใช่สำหรับน้อง ๆ ติดต่อ IDP วันนี้ เพื่อเริ่มวางแผนเส้นทางเรียนต่อในอเมริกาอย่างมั่นใจได้เลย