อเมริกา เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของนักเรียนทั่วโลก เพราะมีมหาวิทยาลัยระดับท็อป วัฒนธรรมที่หลากหลาย และโอกาสต่อยอดทั้งการทำงานและเรียนต่อในอนาคต แต่หลายคนก็ยังลังเลเพราะสงสัยว่า เรียนต่ออเมริกา ใช้เงินเท่าไหร่? หรือกังวลเรื่อง ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่ออเมริกา

ข่าวดีคือ ตอนนี้มี ทุนเรียนอเมริกา ให้เลือกมากมาย ทั้งจากรัฐบาลสหรัฐฯ และจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ บางทุนครอบคลุมค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายรายวัน — ช่วยให้นักเรียนไทยเข้าใกล้ฝันการเรียนในอเมริกาได้จริง!

หมายเหตุ: ทุนเหล่านี้มักมีการแข่งขันสูงมาก ควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 8–12 เดือนก่อนช่วงสมัครเรียน

เรียนต่ออเมริกามีดีมากกว่ามหาวิทยาลัยท็อป

การได้ทุนหรือเรียนต่อในอเมริกา ไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่อนาคตที่ดีทั้งในด้านการเรียนและการทำงาน โดยมีข้อดีหลัก ๆ ดังนี้:

คุณภาพการศึกษาระดับโลก เรียนจบจากอเมริกา ได้วุฒิที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก เพิ่มโอกาสการทำงานทั้งในไทยและต่างประเทศ

สังคมหลากหลายวัฒนธรรม ได้เรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน ๆ จากทั่วโลก เปิดโลกทัศน์ สร้างคอนเนกชันระยะยาว

มีโอกาสทำงานและฝึกงานระหว่างเรียน ทำงานในแคมปัสได้ 20 ชม./สัปดาห์ และช่วงปิดเทอมได้ถึง 40 ชม. มีโปรแกรมฝึกงาน (Internship) และ Optional Practical Training (OPT) ที่ช่วยเสริมทักษะและเพิ่มความน่าสนใจในเรซูเม่

เรียนจบแล้วอยู่ต่อทำงานได้อีก สามารถขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้สูงสุด 12 เดือน หรือ 36 เดือน (3 ปี) สำหรับคณะในสาย STEM

พัฒนาภาษาอังกฤษแบบจัดเต็ม ได้ฝึกพูดและใช้ภาษาอังกฤษจริงในชีวิตประจำวันและในห้องเรียน เพิ่มความมั่นใจแบบก้าวกระโดด

หมายเหตุเกี่ยวกับข้อมูลทุนบางส่วน

*ข้อมูลทุนบางส่วนจากมหาวิทยาลัยพาร์ตเนอร์ของ IDP อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ IDP เพื่อขอข้อมูลที่อัปเดตและตรงกับสถาบันที่สนใจมากที่สุด

*IDP ไม่ใช่ผู้ให้ทุนโดยตรง แต่เป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อต่างประเทศ ที่สามารถช่วยน้อง ๆ ขอจดหมายตอบรับ (Letter of Acceptance) จากมหาวิทยาลัยใน ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ไอร์แลนด์, อเมริกา, แคนาดา และนิวซีแลนด์ — เป็นก้าวแรกสำคัญของการเรียนต่อนอก

ประเภททุนเรียนต่อในอเมริกา

อเมริกามีทุนการศึกษาหลากหลายสำหรับนักเรียนต่างชาติ ครอบคลุมหลากหลายระดับชั้น สาขาวิชา และพื้นฐานของผู้สมัคร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ที่น้อง ๆ ไทยควรทำความรู้จัก:

  • ทุนรัฐบาลอเมริกา (Government-funded scholarships) ทุนที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลอเมริกา เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและเปิดโอกาสให้นักเรียนเก่งจากทั่วโลกเข้ามาเรียนในสหรัฐฯ

  • ทุนจากมหาวิทยาลัย (University-specific scholarships) ทุนจากแต่ละมหาวิทยาลัย โดยพิจารณาจากเกรดเฉลี่ย ความสามารถ หรือสถานะทางการเงินของนักเรียนต่างชาติ เช่น ทุนส่วนลดค่าเรียน หรือทุนเต็มจำนวน Many

ทุนรัฐบาลอเมริกาที่น่าสนใจ

ทุน Fulbright สำหรับนักศึกษาต่างชาติ

ทุน Fulbright ถือเป็นหนึ่งใน ทุนเรียนต่ออเมริกา ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเรียนต่อ ปริญญาโทหรือปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา

ทุน Fulbright ครอบคลุม

  • ค่าเรียนเต็มจำนวน

  • ค่าหนังสือเรียน

  • ค่าครองชีพและที่พัก

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน

  • ประกันสุขภาพ

  • วีซ่านักเรียนประเภท J-1

  • สนับสนุนกิจกรรมเสริมตามแนวทางของโครงการ

คุณสมบัติของผู้สมัครทุน Fulbright:

  • สัญชาติไทยเท่านั้น

  • ไม่มีสัญชาติหรือถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯ

  • จบป.ตรี (สำหรับผู้สมัครป.โท) หรือป.โท (สำหรับผู้สมัครป.เอก)

  • เกรดเฉลี่ย 3.0 ขึ้นไป (จาก 4.0)

  • คะแนนภาษาอังกฤษขั้นต่ำ เช่น IELTS 6.5, TOEFL iBT 79

  • มีผลงานทางวิชาการ/กิจกรรมเพื่อสังคม

  • มีความมุ่งมั่นในสาขาที่เลือกเรียน

  • ตั้งใจกลับมาทำงานที่ไทย และทำงานอย่างน้อย 5 ปี

ผู้ที่ ไม่มีสิทธิ์สมัคร ทุน Fulbright ได้แก่:

  • พนักงาน ครอบครัวใกล้ชิด หรือผู้ที่อยู่ในความอุปการะของพนักงาน AMINEF, สถานทูตสหรัฐฯ หรือกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ

  • ผู้ที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาอื่นอยู่ในขณะสมัคร

  • ผู้ที่เคยได้รับทุนอื่นแล้วในช่วงเวลาที่สมัคร

  • ผู้ที่กำลังสมัครโครงการเรียนร่วมสองปริญญา (Dual Degree) ที่คล้ายกันในช่วงเวลาเดียวกัน

เอกสารที่ใช้ในการสมัครทุน Fulbright:

  • แบบฟอร์มสมัครทุน Fulbright พร้อมแนบเอกสารประกอบ ได้แก่

    • Study Objective ความยาว 1 หน้า

    • Personal Statement ความยาว 1 หน้า

    • ตัวอย่างงานเขียนทางวิชาการ

    • บรรณานุกรมผลงานที่ตีพิมพ์ (ถ้ามี)

  • สำเนาคะแนน TOEFL หรือ IELTS ที่อายุไม่เกิน 2 ปี

  • จดหมายแนะนำ 2 ฉบับ จากอาจารย์มหาวิทยาลัยหรือหัวหน้างาน

  • รูปถ่ายทรานสคริปต์และใบปริญญา (ฉบับภาษาเดิมและแปลภาษาอังกฤษถ้ามี)

  • สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ

  • ประวัติส่วนตัว (Curriculum Vitae หรือ Resume)

การสมัครต้องส่งเอกสารแบบไปรษณีย์ (ไม่รับทางอีเมล) ไปยังสำนักงาน AMINEF หลังเตรียมเอกสารครบ

ทุน Hubert H. Humphrey Fellowship

Humphrey Fellowship คือทุนที่มอบให้กับผู้เชี่ยวชาญสายงานราชการหรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีประสบการณ์ เพื่อพัฒนาความรู้ ความเป็นผู้นำ และขยายเครือข่ายระดับสากลในอเมริกา ต่างจากทุนทั่วไป ทุนนี้ ไม่ใช่โปรแกรมเรียนเพื่อรับปริญญา (Non-degree) แต่เน้นการเรียนรู้เชิงวิชาชีพและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศ

ผู้รับทุน ไม่สามารถเลือกมหาวิทยาลัยเองได้ ทางผู้ให้ทุนจะเป็นผู้จัดสรรมหาวิทยาลัยให้ ตามความเหมาะสมของประสบการณ์และสาขาความเชี่ยวชาญ

สิ่งที่ผู้ได้รับทุนจะได้รับ:

  • ตั๋วเครื่องบินไป–กลับระหว่างไทย–อเมริกา

  • ค่าเรียนและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ สำหรับโปรแกรมที่จัดโดยมหาวิทยาลัยเจ้าภาพ

  • เบี้ยเลี้ยงรายเดือน สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิต

  • ประกันสุขภาพแบบครอบคลุม

  • ทุนสนับสนุนกิจกรรมวิชาชีพ เช่น งานสัมมนา, เวิร์กช็อป หรือทัศนศึกษา

คุณสมบัติของผู้สมัครทุน Humphrey:

  • สัญชาติไทยเท่านั้น (ห้ามมีสัญชาติสหรัฐฯ หรือถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯ)

  • เป็นบุคลากรระดับกลางในสายงานราชการ หรือองค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไร (NGO) เช่น ผู้วางนโยบาย ผู้จัดการ นักข่าว ผู้นำองค์กร

  • มีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 5 ปีในสายงานภาครัฐหรือ NGO

  • จบปริญญาตรี และมี GPA ไม่ต่ำกว่า 2.75 จาก 4.00

  • มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ (IELTS ≥ 6.0, TOEFL iBT ≥ 70)

  • มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสายงาน และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าร่วมโปรแกรมในอเมริกา

  • ตั้งใจกลับมาทำงานในไทยหลังจบทุน

ผู้ที่ ไม่มีสิทธิ์สมัคร ทุน Humphrey ได้แก่:

  • พนักงาน ครอบครัวใกล้ชิด หรือผู้ที่อยู่ในความอุปการะของ AMINEF, สถานทูตสหรัฐฯ หรือกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา

  • ผู้ที่กำลังเรียนปริญญา หรือกำลังเข้าร่วมโครงการเรียนแบบสองหลักสูตร (Dual Degree)

  • ผู้ที่ได้รับทุนอื่นอยู่ในช่วงเวลาที่ยื่นสมัครทุน Humphrey

เอกสารที่ใช้ในการสมัครทุน Humphrey:

  • แบบฟอร์มสมัครทุน ที่กรอกข้อมูลครบถ้วน

  • คะแนนภาษาอังกฤษ (IELTS, TOEFL ITP/iBT หรือ Duolingo) ที่ออกไม่เกิน 2 ปี

  • จดหมายแนะนำ 2 ฉบับ ควรเขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือแนบคำแปลภาษาอังกฤษ

    • ฉบับที่ 1: จากหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงในตำแหน่งปัจจุบัน

    • ฉบับที่ 2: จากอาจารย์ ที่ปรึกษา หรือผู้ร่วมงานในแวดวงวิชาชีพอื่น (ต้องไม่อยู่ในที่ทำงานปัจจุบัน)

  • ทรานสคริปต์และใบปริญญา (ต้นฉบับภาษาเดิม + แปลอังกฤษ)

  • สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต

  • เรซูเม่ (Curriculum Vitae)

ทุนจากมหาวิทยาลัยในอเมริกา

มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในอเมริกาต่างมี ทุนเรียนต่ออเมริกา เพื่อดึงดูดนักเรียนเก่งจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับ ปริญญาตรี (Undergraduate) และ ปริญญาโท ทั้งในรูปแบบ ทุนตามเกรด (Merit-based), ทุนตามความจำเป็นทางการเงิน (Need-based) หรือ ทุนเฉพาะสาขา

สถาบัน

ทุน

จำนวน

California State University Northridge

Associated Students International Matador Scholarship

สูงสุด US$3,000

Fairleigh Dickinson University

FDU International Scholarships

ลดค่าเรียนสูงสุด US$24,000 ต่อปี และต่ออายุได้ทุกปี ถึง 4 ปี

Full Sail University

Global Achievement Scholarship

ทุนสูงสุด US$5,000 สำหรับปริญญาตรีสายบันเทิงและมีเดีย

Oregon State University

Regional Awards (Southeast Asia and IndoChina)

ทุนลดค่าเรียน สูงสุด US$8,000 ต่อปี, รวม US$32,000 ตลอดหลักสูตรป.ตรี

หมายเหตุ: รายการทุนที่ระบุข้างต้น ไม่ใช่ทั้งหมดที่มีอยู่ แนะนำให้น้อง ๆ ตรวจสอบข้อมูลทุนเพิ่มเติมโดยตรงกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่สนใจ เพื่อให้ได้ข้อมูลล่าสุดและตรงกับสาขาที่ต้องการเรียนมากที่สุด

ทุนเต็มจำนวนในอเมริกา

มหาวิทยาลัยและทุนสำคัญในอเมริกา มีทุนประเภท “full‑ride” หรือทุนเต็มจำนวน ที่ครอบคลุมค่าเล่าเรียนทั้งหมด และบางทุนยังรวมถึงค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายรายเดือน และประกันสุขภาพอีกด้วย ทุนเหล่านี้มักพิจารณาจากความสามารถทางวิชาการหรือสถานการณ์ทางการเงิน และแข่งขันสูงมาก นี่คือข้อมูลทุนเต็มจำนวนในอเมริกาบางส่วน ประจำปี 2025-2026

สถาบัน

ทุน

จำนวน

Amherst College

ทุนตามความจำเป็นทางการเงิน

ทุนเต็มจำนวน: ครอบคลุมค่าเล่าเรียน, ค่าธรรมเนียม, ที่พัก, อาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามฐานะทางการเงินของผู้สมัคร

Drew University

ทุนเน้นความสามารถและศักยภาพโดดเด่น

ทุนสูงสุด US$25,000 ต่อปี สำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนหรือผลงานโดดเด่น

Harvard University

ทุนตามความจำเป็นทางการเงิน

ทุนเต็มจำนวน: ครอบคลุมค่าเล่าเรียน, ค่าธรรมเนียม, ที่พัก, อาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามฐานะทางการเงินของผู้สมัคร

หมายเหตุ: รายชื่อทุนด้านบนยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด แนะนำให้น้อง ๆ ศึกษาและตรวจสอบทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่ต้องการสมัครโดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลล่าสุดและตรงกับเงื่อนไขของแต่ละที่มากที่สุด

ทุนปริญญาตรีในอเมริกา

ทุนสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อปริญญาตรีในอเมริกา (เช่น Fulbright/Humphrey เน้นปริญญาโท/เอก) ก็มีทุนหลายตัวที่ออกแบบมาเพื่อระดับ ป.ตรี นี่คือตัวอย่างทุนปริญญาตรีที่น่าสนใจปี 2025–2026

สถาบัน

ทุน

จำนวน

Drew University

Drew Scholarship in the Arts

มอบทุนปีละ US$1,500 (รวมสูงสุด US$6,000 ตลอด 4 ปี)

Illinois State University

Jesse W. Fell Scholarship

ทุนรายปีสูงสุด US$12,000 (รวมสูงสุด US$48,000 ตลอด 4 ปี)

Illinois Wesleyan University

ทุนตามผลการเรียน

มูลค่าตั้งแต่ US$15,000 – US$38,000 ต่อปี

ยังไม่แน่ใจว่าจะสมัครทุนมหาวิทยาลัยไหนในอเมริกาดี? IDP ช่วยได้! เราพร้อมดูแลทุกขั้นตอน ทั้งเลือกคอร์ส สมัครเรียน ขอวีซ่า ปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยวันนี้

วิธีสมัครทุนเรียนต่ออเมริกาให้ได้จริง

อยากได้ทุนเรียนต่อที่อเมริกา ต้องมีทั้งแผนที่ชัดและเอกสารที่ปัง มาดู step-by-step ที่ช่วยให้สมัครทุนได้แบบรอดทุกด่านกัน

  1. เริ่มหาข้อมูลแต่เนิ่น ๆ: เริ่มค้นหาทุนตั้งแต่ 12 เดือนก่อนช่วงสมัครจริง จะได้มีเวลารวบรวมเอกสาร เตรียมตัว และเลือกทุนที่ตรงกับโปรไฟล์ของเรา

  2. เตรียมใบสมัครให้พร้อมและเป๊ะ: ใบสมัครคือจุดที่แสดงศักยภาพของเรา ต้องมีครบ:

    1. ทรานสคริปต์ – แสดงผลการเรียนที่ดีและความตั้งใจจริง

    2. จดหมายรับรอง – จากอาจารย์หรือที่ปรึกษาที่รู้จักเราและสามารถเขียนสนับสนุนได้ดี

    3. Personal Statement – เขียนเล่าความตั้งใจ อนาคตที่อยากสร้าง และเหตุผลที่เราควรได้รับทุน

    4. ผลสอบภาษาอังกฤษ – แนบคะแนน TOEFL, IELTS หรือ Duolingo เพื่อแสดงความสามารถด้านภาษา

ส่งใบสมัครก่อนเดดไลน์: อย่ารอจนถึงวันสุดท้าย! ทุนส่วนใหญ่ปิดรับเร็ว ควรส่งล่วงหน้าเพื่อป้องกันความผิดพลาด

ให้ IDP ช่วยดูแลเส้นทางเรียนต่ออเมริกา

กรอกข้อมูลของคุณ แล้วทีมแนะแนวของเราจะติดต่อกลับไป เพื่อแนะนำ คอร์สเรียน มหาวิทยาลัย ประเทศที่ใช่ และทุนที่เหมาะกับทุกคน! ไม่ว่าจะอยากรู้ว่าเรียนต่ออเมริกาใช้เงินเท่าไหร่ หรือมีทุนเรียนต่อปริญญาตรีอเมริกาอะไรบ้าง พี่ ๆ พร้อมให้คำแนะนำครบ ฟรี!

บทความเกี่ยวกับเรียนต่ออเมริกา