วีซ่านักเรียนอังกฤษ

ประเทศอังกฤษขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักเรียนไทย แต่น้อง ๆ ที่อยากไปเรียน ต้องเริ่มจากทำความเข้าใจเรื่อง วีซ่าเรียนต่ออังกฤษ และ เอกสารขอวีซ่านักเรียนอังกฤษ ให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท หรือหลักสูตรระยะยาว การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสผ่านวีซ่าได้แบบไม่มีสะดุด

คำตอบคือ: ต้องขอค่ะ! น้อง ๆ ที่ไม่มีสัญชาติอังกฤษ และต้องการเรียนในอังกฤษเกิน 6 เดือนขึ้นไป จะต้องยื่นขอ วีซ่านักเรียนอังกฤษ ก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะเรียนที่มหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนเอกชนก็ตาม หากเรียนในหลักสูตรที่สั้นกว่า 6 เดือน เช่น เรียนภาษา ก็อาจใช้วีซ่าระยะสั้นได้ แต่ถ้าเป็นหลักสูตรเต็มเวลา ต้องสมัครวีซ่านักเรียนเท่านั้น

การขอ วีซ่านักเรียนอังกฤษ จะแตกต่างกันไปตามอายุและระดับการศึกษาที่น้อง ๆ สมัครเรียน เช่น:

• Child Student Visa สำหรับน้อง ๆ อายุ 16 หรือ 17 ปี ที่จะไปเรียนในโรงเรียนเอกชนใน UK

• Student Visa (ทั่วไป) สำหรับนักเรียนไทยที่เรียนหลักสูตรปริญญาตรี โท หรือหลักสูตรเต็มเวลาอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยที่ได้รับอนุญาต วีซ่านักเรียนอังกฤษ ประเภทนี้ถือเป็นประเภทที่น้อง ๆ ไทยนิยมใช้มากที่สุด

🖊️กรอกแบบฟอร์ม เพื่อรับ eBook เรียนต่อ UK สุด Exclusive📖

พร้อมคำแนะนำจาก เจ้าหน้าที่แนะแนว IDP ได้เลย

ในการสมัคร วีซ่าเรียนต่ออังกฤษ นักเรียนไทยต้องมีคุณสมบัติตามนี้:

• มีจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย (Offer Letter) ต้องได้รับการตอบรับเข้าเรียนจากสถาบันที่เป็น Licensed Student Sponsor

• มีเงินสนับสนุนเพียงพอ ต้องแสดงหลักฐานว่ามีเงินพอสำหรับค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ ตลอดช่วงเวลาที่เรียนในอังกฤษ (จำนวนเงินอาจต่างกันตามเมืองและหลักสูตร)

• มีทักษะภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือสอบอื่น ๆ ที่ผ่านเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย

กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีจดหมายยินยอมจากผู้ปกครองแนบในเอกสารขอวีซ่านักเรียนอังกฤษด้วย

เริ่มต้นเส้นทางเรียนต่อ UK ของน้อง ๆ ด้วยการสมัครวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ของรัฐบาลอังกฤษที่เว็บไซต์

เวลาสมัคร วีซ่านักเรียนอังกฤษ น้อง ๆ ต้องเตรียมเอกสารดังนี้:

1. พาสปอร์ตหรือเอกสารเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ

2. CAS (Confirmation of Acceptance for Studies) เอกสารจากมหาวิทยาลัยที่ยืนยันการรับเข้าเรียน

3. หลักฐานการเงิน แสดงยอดเงินที่เพียงพอสำหรับค่าเรียนและค่าใช้จ่ายขณะอยู่ใน UK

4. ใบรับรอง ATAS (ถ้าหลักสูตรจำเป็นต้องใช้)

5. หนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง (กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี)

6. หลักฐานความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง เช่น สูติบัตร

7. ผลตรวจวัณโรค (TB Test) สำหรับผู้ที่อยู่เกิน 6 เดือน

8. จดหมายยินยอมจากผู้ให้ทุน (ถ้ามีทุนการศึกษาหรือสนับสนุนจากองค์กรในปีที่ผ่านมา)

เอกสารเพิ่มเติมอาจจำเป็น ขึ้นอยู่กับกรณีของแต่ละคน พาสปอร์ตควรมีหน้าว่างอย่างน้อย 1 หน้าเพื่อใส่สติ๊กเกอร์วีซ่า และเตรียมตัวสำหรับการสแกนลายนิ้วมือ + ถ่ายรูปที่ศูนย์ยื่นวีซ่า (Biometrics)

หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดในการขอ วีซ่าเรียนต่ออังกฤษก็คือ ต้องแสดงความสามารถด้านภาษาอังกฤษให้ผ่านเกณฑ์ที่รัฐบาลอังกฤษกำหนด โดยสามารถทำได้ 2 วิธี:

1. สอบ Secure English Language Test (SELT) เช่น IELTS for UKVI จาก IDP ซึ่งเป็นการสอบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้ยื่นขอ วีซ่านักเรียนอังกฤษและผ่านเกณฑ์ UKVI (UK Visas and Immigration)

2. ใช้วุฒิการศึกษาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น GCSE, A Level, Scottish National Qualification (ระดับ 4 หรือ 5), Scottish Higher / Advanced Higher (ในรายวิชา English) โดยน้องต้องเริ่มเรียนในโรงเรียน UK ก่อนอายุ 18 ปี ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน ต้องแสดงว่ามีทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในระดับที่กำหนดตามมาตรฐาน CEFR (Common European Framework of Reference for Languages)

สำหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยหรือสูงกว่า หากน้องสมัครเรียนในหลักสูตรปริญญาตรีขึ้นไป สถาบันอาจใช้ระบบประเมินภาษาอังกฤษของตัวเอง แต่ต้องมีระดับทักษะอย่างน้อย CEFR Level B2 ตามเกณฑ์ของ UKVI

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 เป็นต้นมา BRP จะไม่มีการใช้งานอีกต่อไป นักเรียนที่เรียนหลักสูตรนานกว่า 6 เดือนจะต้องลงทะเบียนเพื่อขอ E-Visa หลังเดินทางถึงสหราชอาณาจักรแล้ว

เพื่อให้น้อง ๆ สมัครวีซ่านักเรียนอังกฤษผ่านฉลุย:

• จัดเอกสารให้ครบ และตรวจเช็กก่อนส่งทุกครั้ง

• เตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับ สัมภาษณ์วีซ่า (บางคนอาจถูกเรียกสัมภาษณ์)

• ยื่นเอกสารล่วงหน้า อย่ารอจนใกล้วันเรียน เพราะขั้นตอนอาจใช้เวลานาน

• ศึกษาข้อผิดพลาดที่นักเรียนไทยมักพลาด เช่น เอกสารไม่ครบ หรือเงินในบัญชีไม่ตรงตามเกณฑ์

พี่ ๆ IDP Thailand พร้อมให้คำปรึกษาแบบฟรี! ตั้งแต่เริ่มต้นจนได้วีซ่า ช่วยน้องเช็กเอกสาร ไปจนถึงสมัครเรียนให้ครบจบในที่เดียว