ข้อกำหนดการขอวีซ่านักเรียนในแคนาดา

ในประเทศแคนาดา วีซ่านักเรียน จะเรียกว่า Study Permit ถ้าใบสมัครของน้องได้รับอนุมัติ จะได้วีซ่านักเรียนควบคู่กับ Study Permit โดยอัตโนมัติ

การสมัคร วีซ่า แคนาดา อาจดูยุ่งยาก แต่ถ้ามีข้อมูลครบ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ก่อนบินไปเรียนที่แคนาดา น้องต้องแน่ใจว่าได้ Study Permit ที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ล่าสุด เนื่องจากกฎของวีซ่านักเรียนแคนาดา อาจมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว แนะนำให้ติดตามข้อมูลอัปเดตจากเว็บไซต์ IRCC (Immigration, Refugees and Citizenship Canada) เป็นหลัก

พี่ ๆ ที่ IDP พร้อมช่วยน้องหาข้อมูลจาก IRCC และแนะนำตัวแทนด้านการยื่นวีซ่าที่ได้รับอนุญาต มั่นใจได้ว่าน้องจะสมัคร วีซ่านักเรียนแคนาดา ได้อย่างถูกต้องและไม่พลาดทุกขั้นตอน

ถ้าน้อง ๆ อยากไปเรียนต่อที่แคนาดา จะต้องมีคุณสมบัติตามที่รัฐบาลแคนาดากำหนดก่อน ถึงจะสามารถขอ วีซ่านักเรียน แคนาดา หรือ Study Permit ได้ โดยเงื่อนไขหลัก ๆ มีดังนี้:

• มีจดหมายตอบรับ จากสถาบันการศึกษาที่อยู่ในรายชื่อ DLI (Designated Learning Institution) หรือสถาบันที่รัฐบาลแคนาดารับรองว่าสามารถรับนักเรียนต่างชาติได้

• มีหลักฐานการเงิน เช่น รายการเดินบัญชีหรือหนังสือรับรองจากผู้สนับสนุน ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ

• ไม่มีประวัติอาชญากรรม

• ผ่านการตรวจสุขภาพ โดยแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากทางสถานทูตแคนาดา

DLI คืออะไร? DLI หรือ Designated Learning Institution คือโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยในแคนาดาที่ได้รับอนุญาตให้รับนักเรียนต่างชาติ ถ้าน้องจะสมัครเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ต้องตรวจสอบให้ชัวร์ก่อนว่าโรงเรียนที่เลือกอยู่ในรายชื่อ DLI หรือไม่

ถ้าน้อง ๆ มีคุณสมบัติตามนี้ ก็พร้อมลุยต่อได้เลย! เพราะการไปเรียนต่อแคนาดา ต้องมีวีซ่านักเรียนก่อนเสมอ ลองดู เช็กลิสต์เอกสารที่ต้องใช้ ในการสมัครวีซ่าได้ในหัวข้อถัดไปเลยนะคะ

เมื่อน้อง ๆ พร้อมจะยื่น Study Permit เพื่อไปเรียนต่อแคนาดา อย่าลืมเตรียม เอกสารวีซ่าแคนาดา ให้ครบถ้วนตามรายการนี้:

1. แบบฟอร์ม Family Information Form (IMM 5707)

• กรอกให้ครบทุกช่อง ลงวันที่และเซ็นชื่อ

• หากไม่เกี่ยวข้อง ให้เขียน "N/A"

2. พาสปอร์ตตัวจริง + สำเนาหน้าแรกของพาสปอร์ต

• สำหรับ ผู้สมัครอายุต่ำกว่า 18 ปี เพิ่มเติม:

• สูติบัตร

• แบบฟอร์ม Custodianship Declaration (IMM 5646) ที่รับรองโดยทนาย (ถ้ามีผู้ดูแลในแคนาดา)

• ถ้าเดินทางกับพ่อหรือแม่เพียงคนเดียว ต้องมีจดหมายยินยอมจากอีกฝ่าย ที่รับรองโดยทนาย

3. จดหมายตอบรับ (Letter of Acceptance) จากสถาบันที่อยู่ในรายชื่อ DLI

ต้องระบุ:

• ได้รับการตอบรับแบบไม่มีเงื่อนไข

• ชื่อหลักสูตร

• ระยะเวลาหลักสูตร

• ระดับของหลักสูตร

• วันที่เริ่มเรียน (หรือหลายวันเริ่มเรียนถ้ามีให้เลือก)

• วันสุดท้ายที่สามารถเข้าร่วมเรียนได้

4. ใบแจ้งค่าใช้จ่าย (Fee Schedule)

ควรรวมถึง:

• ค่าเรียน

• ค่าที่พัก + ค่าอาหาร

• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ประกันสุขภาพ หนังสือ และค่าสมาชิกต่าง ๆ

5. จดหมายแสดงวัตถุประสงค์ (SOP – Statement of Purpose)

• อธิบายเหตุผลที่เลือกเรียนหลักสูตรนี้ พร้อมเชื่อมโยงกับประวัติการเรียนและเป้าหมายอาชีพ

• ต้องเขียนด้วยตัวเอง 100% ห้ามใช้ AI หรือคัดลอกจากที่อื่น

• หากเจ้าหน้าที่พบว่า SOP ถูกสร้างโดย AI หรือปลอมแปลง จะถูกปฏิเสธทันที

6. เอกสารการเรียนที่ผ่านมา (Proof of Studies)

เช่น:

• สำเนาใบประกาศนียบัตร / วุฒิการศึกษา

• หลักฐานการลงทะเบียนเรียน (ถ้าเรียนอยู่)

• Transcript ระดับอุดมศึกษา หรือโรงเรียน

• เอกสาร CAQ (Certificat d’Acceptation du Québec) หากเรียนที่รัฐควิเบก

7. หนังสือรับรองประวัติอาชญากรรม (NBI Clearance)

• ต้องมีสำหรับผู้สมัครที่อายุ 18 ปีขึ้นไป

• กรณียื่นออนไลน์ ต้อง สแกนเอกสารและอัปโหลด

• ใช้ฉบับจริง (Original) ที่ออกไม่เกิน 3 เดือน พร้อมประทับตราแห้งและลายนิ้วมือ

8. แบบสอบถามประวัติส่วนตัว (Background Questionnaire)

• ถ้าตอบ “ใช่” ในส่วนคำถามด้านหลังฟอร์มสมัครวีซ่า

• ต้องแนบ แบบฟอร์ม IMM 5257B (Application for Temporary Resident Visa – Schedule 1) ที่กรอกและเซ็นเรียบร้อย

9. หลักฐานทางการเงิน (Proof of Financial Support)

เอกสารแสดงว่าเรามีเงินเพียงพอสำหรับ:

• ค่าเดินทาง

• ค่าเรียนปีแรก

• ค่ากินอยู่ ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

• (ถ้ามีครอบครัวหรือผู้ติดตาม ต้องคำนวณเพิ่ม)

ตัวอย่างเอกสาร:

• บัญชีเงินฝาก ย้อนหลัง 6 เดือน ของตัวเอง/ผู้ปกครอง/คู่สมรส

• หนังสือรับรองรายได้ + เอกสารภาษี

• จดหมายจากนายจ้างหรือหลักฐานธุรกิจ (กรณีประกอบอาชีพอิสระ)

จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องแสดงขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตาม (ถ้ามี) เช่น ผู้สมัครที่มีครอบครัว 4 คนต้องแสดงว่ามีอย่างน้อย 38,346 ดอลลาร์แคนาดา สำหรับค่าครองชีพ (อัปเดต ณ วันที่ 1 มกราคม 2024)

นักเรียนที่วางแผนจะไปเรียนที่ รัฐควิเบก (Quebec) จะต้องแสดงหลักฐานทางการเงินเพิ่มเติมตามที่รัฐบาลควิเบกกำหนด (นอกเหนือจากเงื่อนไขปกติของ Study Permit)

หมายเหตุ เอกสารที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศส ต้องแนบ ฉบับแปลภาษาอังกฤษ/ฝรั่งเศสโดยนักแปลที่ได้รับการรับรอง ข้อมูลเกี่ยวกับ วีซ่านักเรียนแคนาดา และ Study Permit มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด ทางที่ดีที่สุดคือ เช็กข้อมูลล่าสุดที่เว็บไซต์ของ IRCC (Immigration, Refugees and Citizenship Canada)

ถ้าน้อง ๆ กำลังวางแผนจะไปเรียนต่อที่แคนาดา ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรภาษา ป.ตรี หรือ ป.โท นักเรียนไทย ต้องยื่นขอวีซ่าแคนาดาแน่นอน เพื่อเข้าประเทศได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะถ้าเรียน มากกว่า 6 เดือน ขึ้นไป จะต้องขอ Study Permit ซึ่งเป็นวีซ่าหลักของนักเรียนต่างชาติที่ใช้พำนักอยู่ในแคนาดาระหว่างเรียน

อย่าลืมนะ! แค่มี Study Permit หรือ วีซ่านักเรียนแคนาดา แล้ว ไม่ได้แปลว่าเข้าแคนาดาได้ทันที

เมื่อเดินทางถึงสนามบินในแคนาดา นักเรียนจะต้อง:

• แสดง Study Permit

• พร้อม เอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น จดหมายตอบรับจากโรงเรียน, หลักฐานการเงิน, เอกสารที่พัก ฯลฯ

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (Border Services Officer) จะเป็นผู้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อนตัดสินใจอนุญาตให้เข้าประเทศ

อย่าลืมนะ! แค่มี Study Permit หรือ วีซ่านักเรียนแคนาดา แล้ว ไม่ได้แปลว่าเข้าแคนาดาได้ทันที

เมื่อเดินทางถึงสนามบินในแคนาดา นักเรียนจะต้อง:

• แสดง Study Permit

• พร้อม เอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น จดหมายตอบรับจากโรงเรียน, หลักฐานการเงิน, เอกสารที่พัก ฯลฯ

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (Border Services Officer) จะเป็นผู้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อนตัดสินใจอนุญาตให้เข้าประเทศ

การยื่นขอ Study Permit หรือ วีซ่านักเรียนแคนาดา มีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมไว้ดังนี้:

• ค่าสมัคร Study Permit: 150 ดอลลาร์แคนาดา

• ค่าบันทึกข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (Biometrics): 85 ดอลลาร์แคนาดา (รวมการสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูป)

ค่าใช้จ่ายนี้เป็นขั้นตอนบังคับสำหรับนักเรียนทุกคนที่สมัครเรียนในแคนาดา และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าตรวจสุขภาพหรือค่าสอบภาษา ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีค่ะ