ที่พักนักเรียนในอเมริกา สำหรับนักเรียนไทย

การวางแผน เรียนต่ออเมริกา ไม่ใช่แค่เรื่องการเลือกมหาวิทยาลัยหรือสาขาที่เรียน แต่ ที่พักนักเรียนในอเมริกา ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะมีผลทั้งต่อค่าใช้จ่าย ความสะดวก และการใช้ชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพาน้องมารู้จักตัวเลือกที่พักต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ และสิ่งที่ควรรู้ เพื่อให้น้องตัดสินใจเลือกที่พักที่ตรงใจและเหมาะกับงบมากที่สุด

เวลาเลือก ที่พักนักเรียนไทยในอเมริกา น้องจะมีตัวเลือกหลายแบบ ทั้งแบบอยู่ในมหาวิทยาลัย (หอพักนักเรียนในอเมริกา) หรือจะเลือกอยู่ข้างนอกแบบอิสระก็ได้ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีหอพักในแคมปัส แต่ต้องรีบสมัครเพราะเต็มเร็วมาก

นอกจากนี้ ยังมีที่พักชั่วคราวสำหรับนักเรียนที่มาถึงก่อนเปิดเทอม หรือกำลังหาที่อยู่ระยะยาว ส่วนใครอยากอยู่ข้างนอกก็สามารถเช่าอพาร์ตเมนต์ หรือแชร์บ้านอยู่กับเพื่อนก็ได้ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาตาม ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา สไตล์การใช้ชีวิต และทำเลที่สะดวกใกล้มหาวิทยาลัย

หอพักในมหาวิทยาลัย (On-campus housing).

หอพักนักเรียนในอเมริกา ภายในมหาวิทยาลัย เช่น dormitory หรือ residence hall คือทางเลือกยอดฮิต เพราะน้องจะได้อยู่ใกล้คลาสเรียน ห้องสมุด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

ข้อดีของการอยู่หอใน คือได้เจอเพื่อนเยอะ ชีวิตสนุก และบางที่รวมค่าอาหาร น้ำ ไฟ ไว้เรียบร้อย แต่ข้อเสียคืออาจมีราคาสูงกว่าอยู่ข้างนอก และบางครั้งมีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า ถ้าน้องชอบความคึกคักในมหาวิทยาลัย หอพักในอาจตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากอิสระมากกว่านี้ อาจต้องมองหาตัวเลือกอื่น

อพาร์ตเมนต์นอกมหาวิทยาลัย (Off-campus student apartments)

ใครอยากอิสระมากขึ้น การเช่าที่พักนอกมหาวิทยาลัยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะน้องเลือกได้เองว่าจะอยู่โซนไหน และจะอยู่กับใคร การอยู่แชร์ห้องกับเพื่อนช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ต้องคำนึงถึงค่ารถ ค่าเดินทางไปมหาวิทยาลัย และค่าบิลต่าง ๆ อย่างค่าไฟ ค่าเน็ต ฯลฯ บางที่อาจต้องมีคนค้ำประกัน (guarantor) ที่เป็นคนอเมริกัน หรือเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าหลายเดือน

ถ้าน้องชอบความอิสระ ไม่ชอบกฎเยอะ การอยู่ off-campus อาจเหมาะกว่า แต่ต้องวางแผน ค่าเช่าหอพักในอเมริกา ให้ดี เพราะราคามีหลากหลายมากตามเมืองที่เลือกอยู่

โฮมสเตย์กับครอบครัวชาวอเมริกัน (Homestay Accommodation)

การอยู่โฮมสเตย์ คือการพักอยู่กับครอบครัวคนอเมริกันจริง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดี เพราะน้องจะได้ฝึกภาษาอังกฤษ เรียนรู้วัฒนธรรมอเมริกัน และได้รับการดูแลเหมือนคนในบ้าน มักรวมค่าอาหาร 2-3 มื้อต่อวัน รวมถึงบางที่มีบริการรับส่งสนามบิน เหมาะมากสำหรับนักเรียนที่เพิ่งมาใหม่ หรืออายุยังน้อย เช่น ต่ำกว่า 18 ปี หรือเรียนโปรแกรมภาษา (ESL)

ทั้งนี้ การอยู่โฮมสเตย์อาจมีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าอยู่หอเอง และบางบ้านอาจอยู่ไกลมหาวิทยาลัย น้องต้องถามรายละเอียดให้ชัดก่อนตัดสินใจ

ที่พักระยะสั้น (Short-term accommodation)

สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่เจอที่พักระยะยาว การเช่าที่พักระยะสั้น เช่น โรงแรม Hostel หรือ Airbnb เป็นตัวเลือกที่สะดวกเพราะช่วยให้น้องมีเวลาหาที่พักถาวร แต่ต้องระวังว่าที่พักชั่วคราวอาจมี ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา ที่สูงกว่าการอยู่แบบระยะยาว จึงไม่เหมาะจะอยู่ยาวเป็นเดือน ๆ

ค่าเช่าหอพักในอเมริกา ไม่เท่ากันในแต่ละเมือง และแต่ละประเภทที่พัก โดยราคาคร่าว ๆ ต่อเดือนประมาณนี้

• หอพักในมหาวิทยาลัย: USD $800 – $1,500

• ที่พักนอกมหาวิทยาลัย: USD $700 – $1,300 (แล้วแต่เมือง)

• โฮมสเตย์กับครอบครัวชาวอเมริกัน: USD $900 – $1,400 (มักรวมค่าอาหารแล้ว)

*เมืองใหญ่เช่น Boston, Los Angeles หรือ Seattle มักมีค่าเช่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนเมืองเล็กหรือแถบ Midwest ค่าเช่าจะถูกกว่า

นอกจากนี้ต้องเผื่อค่าครองชีพอื่น ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และมัดจำ (security deposit) ซึ่งที่อเมริกามักต้องวางมัดจำเท่ากับค่าเช่าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังวางแผน เรียนต่ออเมริกา และสนใจเช่าที่พักเอง โดยเฉพาะแบบ ที่พักนักเรียนในอเมริกา นอกมหาวิทยาลัย (off-campus) เรื่องที่ต้องรู้แน่ ๆ คือสัญญาเช่า หรือที่เรียกว่า Lease เพราะมันคือสัญญาทางกฎหมายที่ระหว่างผู้เช่า (น้อง) กับเจ้าของที่พัก โดยทั่วไป สัญญาเช่าจะระบุรายละเอียดต่าง ๆ เช่น

• ค่าเช่าต่อเดือน (ค่าเช่าหอพักในอเมริกา ขึ้นอยู่กับเมืองและรูปแบบที่พัก)

• กำหนดวันจ่ายค่าเช่า

• กฎหรือข้อจำกัดที่ต้องปฏิบัติ

• เงื่อนไขการคืนเงินมัดจำ (Security Deposit)

เงินมัดจำเป็นเงินที่น้องต้องจ่ายล่วงหน้าเพื่อค้ำประกันความเสียหาย ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องสภาพห้อง เจ้าของจะคืนเงินให้ตอนย้ายออก ซึ่งในหลายรัฐ เจ้าของต้องคืนเงินภายใน 14–30 วันหลังน้องย้ายออก ดังนั้นแนะนำให้ถ่ายรูปห้องทั้งก่อนเข้าอยู่และก่อนย้ายออกไว้เป็นหลักฐาน

สัญญาเช่าจะระบุด้วยว่าใครต้องรับผิดชอบซ่อมบำรุง ส่วนใหญ่เจ้าของจะรับผิดชอบงานซ่อมใหญ่ เช่น ระบบไฟฟ้า หรือประปา แต่ผู้เช่าอาจต้องดูแลความสะอาดหรือซ่อมเล็ก ๆ น้อย ๆ เอง

ดังนั้น ก่อนเซ็นสัญญา ต้องอ่านทุกข้อให้ละเอียด และรู้ สิทธิของผู้เช่า ตามกฎหมายแต่ละรัฐ เพราะแต่ละที่มีกฎต่างกัน การรู้สิทธิและหน้าที่ของตัวเอง จะช่วยให้น้องอยู่ ที่พักนักเรียนในอเมริกา ได้อย่างมั่นใจ และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การเลือก ที่พักนักเรียนในอเมริกา เป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้การเลือกมหาวิทยาลัย เพราะส่งผลต่อทั้งค่าใช้จ่าย ความสะดวก และคุณภาพชีวิต มาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องคิดบ้าง

ระยะทางจากมหาวิทยาลัยและการเดินทาง

อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยจะช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทาง แถมทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น แต่ถ้า ค่าเช่าหอพักในอเมริกา ใกล้แคมปัสสูงเกินไป น้องอาจเลือกที่พักไกลขึ้นแต่ต้องดูว่ามีรถสาธารณะสะดวกหรือเปล่า เช่น รถบัส รถไฟ หรือมีที่จอดรถให้หรือไม่

งบประมาณ (ค่าเช่าและค่าครองชีพ)

ต้องคิดให้ครบว่าแต่ละตัวเลือกจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง นอกจากค่าเช่าหอพัก ยังต้องเผื่อเงินสำหรับค่าน้ำ ค่าไฟ อินเทอร์เน็ต ค่าเดินทาง หรือค่าอาหาร เพื่อประเมินว่าที่พักนั้นอยู่ในงบของน้องหรือไม่ เพราะ ค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกา ถือว่าสูงถ้าไม่วางแผนดี ๆ

สิ่งอำนวยความสะดวก (ห้องซักผ้า ห้องครัว พื้นที่อ่านหนังสือ)

ลองเช็กว่าที่พักมีอะไรให้บ้าง เช่น ห้องซักผ้า ห้องครัว หรือโซนอ่านหนังสือ เพราะสิ่งพวกนี้จะทำให้การใช้ชีวิตที่อเมริกาสะดวกและประหยัดขึ้น

ความปลอดภัยและการดูแล (สำคัญสำหรับนักเรียนใหม่)

ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะน้องที่เพิ่งไป เรียนต่ออเมริกา ใหม่ ๆ ควรเลือกที่พักที่มีระบบรักษาความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด รปภ. หรือมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา เช่น Resident Advisors หรือ International Student Office

พี่ ๆ IDP พร้อมให้คำปรึกษา ช่วยอธิบายทางเลือกต่าง ๆ และช่วยให้น้องเลือกที่พักนักเรียนในอเมริกาได้ตรงกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณได้ดีที่สุด

เคล็ดลับการหาที่พักนักเรียนในอเมริกา

เวลาจะหาที่พัก ที่พักนักเรียนไทยในอเมริกา หรือ หอพักนักเรียนในอเมริกา แนะนำให้เริ่มจาก:

• ใช้เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เช่น University Housing Portal หรือเว็บที่มีการรับรอง เพราะปลอดภัยกว่าประกาศตาม Facebook หรือเว็บที่ไม่รู้จัก

• ระวังประกาศที่ดูดีเกินจริง หรือให้โอนเงินเยอะ ๆ ล่วงหน้าโดยไม่มีสัญญา

• บางที่อาจขอเครดิตสกอร์ (Credit History) ซึ่งเด็กไทยมักไม่มี แต่สามารถใช้ Bank Statement หรือจดหมายรับรองการเงินจากผู้ปกครองหรือสปอนเซอร์แทนได้

• อย่าลืมคุยกับเจ้าของที่พักเรื่องค่าใช้จ่ายให้ชัด ทั้งค่าเช่า ค่ามัดจำ และค่าบิลต่าง ๆ

แนะนำให้น้องเริ่มหาที่พักอย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนเดินทาง เพราะหอพักในมหาวิทยาลัยมักปิดรับสมัครเร็วมาก โดยเฉพาะช่วงเปิดภาคเรียนเดือนสิงหาคม-กันยายน ถ้าเลือกเช่าบ้านเองก็ควรเริ่มหาก่อนล่วงหน้า จะได้มีตัวเลือกเยอะขึ้น และลดความเครียด

พี่ ๆ IDP พร้อมช่วยให้คำแนะนำเรื่องการหาที่พัก ทั้งช่วยให้น้องเข้าใจตัวเลือกต่าง ๆ ขั้นตอนการสมัครห้องพัก และช่วยหาทางออกที่เหมาะกับงบและไลฟ์สไตล์

แนะนำให้น้องเช็กกับ International Student Housing Office ของมหาวิทยาลัย เพราะมักมีข้อมูล ที่พักนักเรียนในอเมริกา ที่อัปเดต รวมถึงพาร์ตเนอร์ที่น่าเชื่อถือ เช่น homestay usa ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ช่วยให้น้องมั่นใจได้ว่าที่พักปลอดภัยและเหมาะสม